วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ประวัติผู้ทำ




ชื่อจริง นางสาว สิริกานต์ ระบือธรรม
ชื่อเล่น ปู

เกิด เสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2533 เวลา 03.47 น.


ช่องทางติดต่อ





วันว่าง อ่านหนังสือ ฟังเพลง วาดรูป

สัตว์เลี้ยง แมว 3 ตัว

สิ่งที่อยากได้ โน้ตบุ๊ค, บ้านสวยๆ สวนงามๆ, แมวเหมียว สัก 2-3 ตัว

สื่งที่ใฝ่ฝัน อยากเที่ยวให้ทั่วไทยและต่างประเทศด้วย


อิทธิพลของสื่อในสังคมปัจจุบัน



การติดต่อสื่อสารคือปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตของสัตว์สังคมชนิดหนึ่งที่เรียกว่า มนุษย์ มนุษย์เริ่มมีการติดต่อกันมาช้านาน ทั้งการเผชิญหน้าโดยตรง ผ่านการพูดคุย รวมถึงการสื่อสารผ่านสื่อซึ่งยังคงมีไม่มากนัก และยังไม่ทันสมัยเหมือนเช่นทุกวันนี้

เพราะทุกวันนี้สื่อถูกสร้างขึ้นเหลือคณา จนบางครั้งตัวมนุษย์เองยังต้องวิ่งตาม ทันบ้าง ไม่ทันบ้าง โดยธรรมชาติของมนุษย์คือการดำรงชีพผ่านสังคม พร้อมกันนั้นยังใช้วัฒนธรรมเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก เปรียบเสมือนกาวที่คอยประสานภาพแต่ละภาพที่เฟ้นตัวเองหรือโดนเลือกเฟ้นให้ต้องมาอยู่รวมกัน กลายเป็นภาพที่สมบูรณ์ในที่สุด

ด้วยเหตุแห่งการดำรงชีวิตในลักษณะนี้จึงหนีไม่พ้นที่จะต้องมีสื่อเพื่อใช้สื่อสารกันในกลุ่มกับนอกกลุ่ม และนับวันอิทธิพลของเจ้าสื่อเหล่านี้นี่เองที่เริ่มจะคล้าย เข็มทิศที่คอยกำหนดวิถีชีวิตให้กับมนุษย์แบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้ในอดีตสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ล้วนแต่เคยอยู่ในยุคที่รุ่งเรื่องมาแล้วทั้งนั้น จนกระทั่งปัจจุบันสื่อต่างๆ ก็ยังคงรุ่งเรืองอยู่ เพียงแต่เริ่มมีโทรคมนาคม สื่อออนไลน์ เสริมเข้ามากลายเป็นโครงข่ายสลับซับซ้อน และหลายครั้งกลับดูวุ่นวายเข้าไปแทนที่


สื่อสิ่งพิมพ์ เกิดเพราะมนุษย์รู้จักผลิตภาษาขึ้นมาใช้เอง ภาษาที่มีความคิดเป็นกระบวนการหลัก สื่อชนิดนี้จึงยังคงความขลังถึงปัจจุบัน

สื่อวิทยุ คือสื่อที่เปิดรับง่ายที่สุด เพราะแม้กระทั่งผู้ไม่รู้หนังสือก็สามารถทำความเข้าใจได้ สื่อโทรทัศน์คือสื่อที่สามารถเข้าถึงอารมณ์ ความเข้าใจง่ายที่สุด สื่อชนิดนี้จึงได้รับความนิยมอย่างมาก อีกสื่อที่ลืมไม่ได้
สื่อโทรคมนาคม เพราะความรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ คือความปรารถนาของมนุษย์ในการรับสื่ออย่างแท้จริง
สื่อออนไลน์ คือเครื่องมือที่ย่อโลก แต่มันก็เป็นโลกที่เต็มไปด้วยอันตราย หนำซ้ำที่อันตรายที่สุด ณ เวลานี้
สื่อข้อความทางโทรศัพท์ ด้วยความสะดวกสบายเวลารับข้อมูล สื่อชนิดนี้จึงสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้เร็วที่สุดในเวลานี้ดังนั้นสื่อทุกชนิดจึงล้วนเป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์ของผู้ที่ต้องการมันสามารถเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ในทุกด้าน และแทบทุกคน

จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ เวลานี้อิทธิพลของสื่ออาจแทรกซึมเข้ามาในตัวทั้งภายในและภายนอก ภายในคงต้องพูดถึงเรื่องจิตใจ ความคิด ที่ผ่านการรับสื่อ จนมีกระบวนการของจิตใต้สำนึกที่เปลี่ยนไป ชอบเก็บตัว อารมณ์รุนแรง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เพียงเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นบริโภคสื่อที่ไม่ดีมากเกินไปหรือเป็นสื่อที่ดีแต่ผิดวิธีนั่นเองส่วนปัจจัยภายนอก

นั้นเห็นได้ชัดจากองค์รวมของบุคคลที่กล่าวข้างต้นเมื่อได้มาอยู่รวมกัน มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ผลสรุปของการรวมครั้งนี้แน่ชัดว่า จะต้องประกอบไปด้วยความไม่ดีมากกว่าดีอย่างแน่นอนเพราะการเปลี่ยนแปลงที่มนุษย์เองไม่ทันได้ระแวดระวังไว้ก่อนนั่นเอง สื่อในปัจจุบันจึงมีอิทธิพลต่อมนุษย์เป็นอย่างมากถึงมากที่สุด มิหนำซ้ำยังกลายมาเป็นดาบสองคม ที่มีประโยชน์มากมายพร้อมโทษเหลือร้ายอีกด้วย ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมจากอิทธิพลของสื่อนี้เอง เริ่มเด่นชัดขึ้นเมื่อเจ้าสื่อเหล่านี้เริ่มส่งผลร้ายมากกว่าดีในบางครั้ง เพราะมนุษย์มักมองแต่ประโยชน์ และด้านดีของมัน จนมาสะดุดเมื่อได้รับรู้ว่ามันได้ส่งผลร้ายกลับมาแล้ว

ตัวอย่างเช่นการใช้อินเตอร์เน็ตในการสื่อสารถึงกันในยุคปัจจุบัน ระยะแรกเราต้องยอมรับว่าสื่อชนิดนี้มีอิทธิพลต่อสังคมและวัฒนธรรมของเราจริงๆ เพราะอินเตอร์เน็ตได้เข้ามาย่อโลกของเรา ทำให้พวกเราติดต่อสื่อสารถึงกันได้อย่างรวดเร็ว การสืบค้น หาความรู้ทางสื่อชนิดนี้ถูกนำมาใช้อย่างเข้มข้น จวบจนกระทั่งผลร้ายของมันเริ่มปรากฏตัวและดูทีท่าว่าจะแก้ได้ยาก และไม่ระแวดระวังในดาบเล่มนี้อย่างพอสมควรนั่นเอง เด็กๆจะให้ความสนใจกับสื่ออินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมาก และบางครั้งก็มากจนพวกเค้าคิดว่าในโลกนี้ของพวกเขามีเพียงตัวเค้าเองกับอินเตอร์เน็ต ทุกอย่างที่ผ่านประสาทตา ผ่านระบบความคิด จากสื่อชนิดนี้ได้ชักนำให้เกิดความเชื่อจนกระทั่งส่งผลร้ายแก่ตัวพวกเขาเอง ดังเช่นการเชื่อในข่าวสารจากอินเตอร์ ความบันเทิงที่นำไปสู่ความผิดศีลธรรม การติดต่อสัมพันธ์ที่ต้องใช้ความจริงใจแต่ก็มีคนจำนวนมาก สวบบทซาตานระหว่างที่ใช้สื่อชนิดนี้อยู่

และนี่เป็นเพียงส่วนน้อยที่หยิบยกมาเท่านั้น โดยเฉพาะสังคมและวัฒนธรรมที่ต้องควบคู่ไปกับการดำเนินการทางการเมือง เพราะการดำเนินการทางการเมืองคือปัจจัยหนึ่งในการแสดงซึ่งทัศนคติ ความคิด และความเจริญของมนุษย์ การปกครองคนไม่ว่าจะใช้ระบอบใดก็ตาม ผู้ปกครองจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่เรียกว่า สื่อ เป็นเครื่องมือหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปราศรัย การโฆษณาชวนเชื่อ การออกกฎหมาย การออกคำสั่งต่างๆ สื่อล้วนมีความจำเป็นทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นหากอุณหภูมิทางการเมืองเข้าสู่องศาที่สูง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันหาเสียง การเกิดความไม่สงบในประเทศ หรืออื่นๆ ฝ่ายที่ครอบครองสื่อมากกว่า แน่นอนเปอร์เซ็นแห่งชัยชนะย่อมอยู่ในมือของกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยหากสื่อที่ผู้มีอำนาจใช้ สามารถคลอบคลุมทั้งสังคมและวัฒนธรรมได้ทุกภาคส่วนแต่เนื้อแท้ของรายละเอียดกลับมีนัยยะซ่อนเร้น ซ่อนความชั่วร้าย เห็นแก่ตัว ท้ายที่สุด ประเทศหรือสังคมนั้นจะต้องพบพานแต่ความวิบัติเป็นแน่

แต่หากรู้จักเฉลียวใจ และคนส่วนใหญ่ในสังคมเริ่มรู้ตัวว่าหากปล่อยให้ผู้นำของพวกเขาครอบครองสื่อต่อไป พวกเราจะต้องเดือดร้อน ก็ควรจะเปลี่ยนอากัปกิริยาที่คล้ายการตื่นจากฝันได้แล้ว จากนั้นใช้ความเข้มแข็งในสังคมและวัฒนธรรมของตนที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ เพียงเท่านี้ อิทธิพลสื่อที่ถูกนำมาใช้ครอบงำก็จะเสื่อมสลายเมื่อไร้ซึ่งการสนองตอบอย่างเป็นธรรมดาท้ายสุดมันขึ้นอยู่กับทุกคนแล้วว่าจะปล่อยให้สื่อมีอิทธิพลต่อเราแบบนี้ต่อไปหรือจะเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้มีอิทธิพลต่อสื่อโดยการเลือกเฟ้นสื่อแท้และทำลายสื่อเทียมออกไป

สื่อออนไลน์ มีผลกระทบต่อชาย?หรือหญิง?



เทคโนโลยีในยุคปัจจุบัน ไม่ว่ามนุษย์จะทำอะไรก็ตาม ก็ต้องใช้เครื่องทุ่นแรง ที่เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่เสมอๆเพราะเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันเป็นอย่างมาก มันสามารถอำนวยความสะดวกให้ทำสิ่งต่างๆได้ง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ สื่อออนไลน์
ในปัจจุบันดูเหมือนว่าเพศที่จะได้รับผลกระทบจากการใช้สื่อออนไลน์มากที่สุดคือ ผู้หญิง จะเห็นจากในหน้าหนังสือพิมพ์ หรือสื่อต่างๆที่นำเสนอข่าวสารมีข่าวผู้หญิงถูกล่อลวงทางอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นอันตรายและเป็นการสูญเสียต่อตัวบุคคล ครอบครัว และสังคมเป็นอย่างมาก
นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการใช้สื่อออนไลน์ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น นศ.หญิงมีการประกาศขายบริการทางเพศผ่านทางสื่อออนไลน์เป็นจำนวนมากที่ถูกจับก็มีหลายรายบ้างก็อ้างว่าเพราะต้องการเงินไปจ่ายค่าเทอม ต้องการเงินไปซื้อรถ ซื้อกระเป๋าแบรนด์เนม ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นข้ออ้างทั้งสิ้น และการกระทำดังกล่าวนั้นถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควร และเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี แต่ก็ใช่ว่าสื่อออนไลน์จะมีแค่ผลเสียเพียงอย่างเดียวเพราะสื่อออนไลน์ก็มีข้อดีอยู่หลายอย่าง เช่น ใช้เพื่อการเรียนการสอน ใช้เป็นการบอกเล่าประชาสัมพันธ์ เป็นต้น สื่อออนไลน์ก็มีทั้งข้อเสียและข้อดี อยู่ที่ผู้ใช้ว่าจะมีสามัญสำนึกและวิจารณญาณไหม

การใช้สื่อออนไลน์นั้นจึงมีผลกระทบต่อทุกๆคน ไว้ว่าจะหญิงหรือชาย และในคนทุกอายุ ถ้าเราใช้อย่างถูกต้อง ก็จะเกิดประโยชน์ต่อเรา ถ้าใช้ในทางที่ผิด ผลกระทบในด้านที่ไม่ดีก็จะเกิดกับตัวเรา
เพราะฉะนั้น ท่านๆ ทั้งหลายคงรู้แล้วนะค่ะว่า คุณควรใช้ประโยชน์จากสื่อออนไลน์อย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุดและไม่ส่งผลกระทบในทางไม่ดีต่อตัวคุณเองและคนอื่นๆด้วย

สื่อออนไลน์ เป็นมิตรหรือภัย!?



อินเทอร์เน็ต ถือเป็นสื่อออนไลน์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทุกเพศทุกวัย โดยไม่จำกัดแค่เฉพาะวัยรุ่น หรือวัยทำงานเท่านั้น ในวัยผู้สูงอายุ ก็สามารถเปิดโลกทัศน์ในโลกออนไลน์ได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น รับส่งอีเมล์ ค้นหาข้อมูลโดยใช้โปรแกรมค้นหา ติดตามข่าวสาร เช็ค สภาพอากาศ ดูข้อมูลการเดินทาง หรือข้อมูลด้านการเมือง รวมทั้งใช้เว็บเครือข่ายสังคม เพื่อปฏิสัมพันธ์กับคนกลุ่มอื่นๆ ซึ่งปัจจุบันมีเว็บที่จัดทำสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะ และเน้นการใช้งานที่สะดวก และง่าย เช่น ด้านสุขภาพ การักษาสุขภาพ เป็นต้น


เกี่ยวกับเรื่องนี้ ศาสตราจารย์ ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการ และประธานผู้บริหารวิทยาลัยการศึกษาทางไกลอินเทอร์เน็ต มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สะท้อนมุมมองว่า ปัจจุบันผู้สูงวัยมีจำนวนมากขึ้น ดังนั้นการใช้คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตในการพัฒนาคุณภาพชีวิต และการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยเปิดโอกาสให้ผู้สูงวัยได้ทดลองใช้งานคอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ต จะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้ต่อเนื่องให้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้สูงวัยที่สำคัญช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี สารสนเทศ และความรู้ในกลุ่มผู้สูงวัย ทำให้มีความภาคภูมิใจ และรู้จักคุณค่าของตัวเองในการทำอะไรต่างๆ ได้เอง ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และสร้างองค์ความรู้ที่หลากหลายมากขึ้นจากการใช้อินเทอร์เน็ต ในการเชื่อมความสัมพันธ์กับลูกหลาน


แต่ในทางกลับกัน ถึงแม้ว่า อินเทอร์เน็ต จะช่วยให้ผู้สูงวัยมีสังคม ส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางเทคโนโลยี สารสนเทศก็ตาม บางครั้งอาจเกิดการรู้ไม่เท่าทันภัยในโลกออนไลน์ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อตัวผู้สูงวัยเองก็เป็นได้ กรณีนี้ ศ.ดร.ศรีศักดิ์ แนะนำว่า ผู้สูงวัยต้องระวังการฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการฉ้อโกงในเรื่องการประกันสุขภาพ ยาปลอม ผลิตภัณฑ์ชะลอความแก่ การค้าออนไลน์ หรื่ออื่นๆ ด้วย เพราะพวกมิจฉาชีพมักคิดว่า ผู้สูงอายุเป็นเหยื่อที่หลอกง่าย เชื่อง่าย สอดรับกับการรายงานของสำนักสืบสวนกลางสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ ที่ระบุว่า ผู้สูงวัยเป็นกลุ่มเป้าหมายของการฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ต เพราะผู้สูงวัยส่วนใหญ่มองโลกในแง่ดี ไม่ค่อยกล้าปฎิเสธ รู้ไม่เท่าทันวิธีการฉ้อโกง เวลาถูกฉ้อโกงมักจะไม่กล้าแจ้งให้บุตรหลานทราบ และไม่รู้ข้อมูลมิจฉาชีพ เช่น ไม่รู้ว่ามิจฉาชีพเป็นใคร จำวันติดต่อไม่ได้ หรือจำที่อยู่ไม่ได้ เป็นต้น ดังนั้นถ้าไม่เข้าใจสิ่งใด ให้ปรึกษาคนในครอบครัว หรือผู้เชี่ยวชาญที่มี่ความรู้ หรือข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวก่อนตัดสินใจ


อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.ศรีศักดิ์ ได้แบ่งประเภทของการฉ้อโกงที่น่าจะเกิดขึ้นกับผู้สูงวัยไว้ดังต่อไปนี้ เพื่อรู้เท่าทัน และป้องกันตัวเองจากการฉ้อโกงดังกล่าวได้เป็นอย่างดี การโฆษณาเรื่องการประกันสุขภาพ มักแอบแฝงมากับเว็บต่างๆ เช่น เว็บบริษัทประกันชีวิต, เว็บชมรมคนรักสุขภาพ, เว็บบ้านพักผู้สูงวัย เป็นต้น ในส่วนของการฉ้อโกงมีหลายรูปแบบ เช่น ให้กรอกแบบฟอร์มผลสำรวจด้านสุขภาพผู้สูงวัยแลกกับของรางวัล, ให้เซ็นสัญญาเกี่ยวกับการประกันสุขภาพ โดยอ้างว่าจะได้รับคำปรึกษาสุขภาพฟรีจากแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ และหลังจากนั้นจะมีใบเสร็จเรียกเก็บเงินส่งมาที่บ้านนอกจากนี้ ศ.ดร.ศรีศักดิ์ ยังบอกถึงการฉ้อโกงทางอินเทอร์เน็ตอื่นๆ ด้วยว่า ยังมีในเรื่องของการทำธุรกรรมธนาคารทางอินเทอร์เน็ต การซื้อตั๋วทางอินเทอร์เน็ต การล่อลวงทางเว็บเครือข่ายสังคมเพื่อรู้ข้อมูลบัตรเครดิต การกู้ยืมเงินทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น ซึ่งผู้สูงวัยต้องรู้เท่าทันด้วย


อย่างไรก็ดี การใช้คอมพิวเตอร์ และอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้สูงวัย เสมือนเป็นดาบสองคม แง่หนึ่งก็มีประโยชน์ แต่อีกแง่ก็มีโทษเช่นกัน ดังนั้นควรเล่นอย่างระมัดระวัง ไม่หลงใหลกับโฆษณาชวนเชื่อตามเว็บต่างๆ ซึ่งไม่เฉพาะแต่เพียงผู้สูงวัยเท่านั้น คนหนุ่มสาว หรือผู้ใหญ่บางคน อาจตกหลุมพรางของกลลวงจากผู้ไม่หวังดีที่แฝงตัวอยู่ในโลกออนไลน์ก็เป็นได้



เรื่องราวของพวกมิจฉาชีพที่หากินทางสื่อออนไลน์นี้ ในข่าวเราจะได้ยินกันบ่อยๆ อยู่แล้ว ดิฉันคิดว่าการทำธุรกรรมใดๆ ทางอินเตอร์เนตนั้นมันสะดวก สบายและรวดเร็ว ดีก็จริง แต่ก็อย่างที่ข้อมูลข้างต้นว่า มันค่อนข้างจะอันตรายสักหน่อย เพราะว่ามันเป็นการทำธุรกรรมทางสื่อออนไลน์ ซึ่งไม่สามารถเห็นของจริง เห็นผู้ติดต่อจริง บางทีเราอาจเสียรู้กลลวงของพวกมิจฉาชีพได้


เพื่อนดิฉันเคยสั่งซื้อของจากอินเตอร์เนต แล้วเจ้าของสิ่งของก็บอกไว้ว่า ต้องโอนเงินมาก่อนของถึงจะส่งไปให้ ในบางเว็บก็เชื่อถือได้ และบางเว็บก็เชื่อถือไม่ได้ และเว็บที่เพื่อนดิฉันสั่งซื้อของ เมื่อโอนเงินไปให้แล้ว เขากลับไม่ส่งของมาให้ ติดต่อก็ไม่ได้ กลายเป็นว่าเสียเงินฟรีไป


ดังนั้นเมื่อท่านต้องการที่จะทำธุรกรรมใดๆ ควรจะตรวจดูให้รอบคอบเสียก่อนที่จะเสียเงินไปฟรีๆ แต่ว่าในบางทีมันก็ตรวจสอบยาก บางทีก็โชคไม่ดี และอาจโดนกลลวงสารพัดของพวกมิจฉาชีพหลอกเอาด้วย เพราะฉะนั้นควรต้องระวังอย่างมากในการใช้สื่อออนไลน์นี้ ไม่เพียงแต่แค่พวกมิจฉาชีพเท่านั้นยังมีพวกที่ไม่หวังดีที่แฝงตัวบนโลกอินเตอร์เนตและใช้สื่อออนไลน์ทั้งหลายหลอกล่อให้เราติดกับอีกมากมาย







ข้อมูลอ้างอิง เชียงใหม่นิวส์ http://www.chiangmainews.co.th/

Hi 5 มีประโยชน์หรือโทษ!


ในปัจจุบัน hi5 คือสื่อออนไลน์ที่คนรู้จักกันและมีสมาชิกมากเป็นอันดับ2ของโลก มีการใช้อย่างแพร่หลาย มีหลากหลายอาชีพให้ความนิยมไม่เว้นแม้กระทั้ง ลูกเล็ก เด็กแดง หรือพระก็ยังเล่นเลย ซึ่งอาจเป็นอีกช่องทางของคนบนโลกออนไลน์ได้ติดต่อสื่อสารกัน ผ่านการคอมเม้น เป็นการพูดคุยอีกอย่างหนึ่ง ส่วนประกอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง hi5 มีอยู่หลายซึ่งไม่นับเจ้าของเว็บและผู้จัดทำเว็บ


เจ้าบ้านคือ เจ้าของยูสเซอร์ hi5 สามารถกรอกประวัติต่างๆของตัวเองลงได้หรือไม่ก็อาจจะเป็นการโกหกเพราะไม่สามารถเช็คได้ว่าคุณเป็นใครหรือใช่คุณหรือเปล่า การโพสรูปต่างๆมีทั้งวาบหวิว น่ารัก ต่างๆนานาๆ แต่ที่เห็นเป็นส่วนใหญ่ คงหนีไม่พ้นรูปภาพของตัวเอง ซึ่งไม่เข้าใจว่าเหตุผลของการแสดงรูปของตนเองเพื่อจุดประสงค์อันใด

สมาชิกหรือเพื่อน จะเป็นกลุ่มคนพิเศษที่สามารถอ่านหรือดู hi5 ของเพื่อนหรือเจ้าบ้านคนอื่น สามารถตอบหรือคอมเม้นให้แก่สมาชิกได้

บุคคลทั่วไป กลุ่มคนเหล่านี้อาจจะไม่สามารถดูข้อมูลของคนที่ไม่ใช่เพื่อนหรืออาจจะดูได้แต่ไม่สามารถคอมเม้นให้แก่เจ้าบ้านที่เข้าไปเยี่ยมชมได้


ในความคิดของดิฉันเกี่ยวกับการเล่น Hi 5 ที่เล่นเพราะว่ามีเห็นเพื่อนๆ คุยกันว่าทำ Hi 5 เล่น Hi 5 เม้น Hi 5
ไอ้ตัวเราก็อยากรู้ว่ามันสนุกตรงไหนเห็นเพื่อนเล่นกัน พูดถึงกันบ่อยๆ แล้วเราก็ไม่อยากดูเชยในสายตาเพื่อนว่าล้าสมัย ดิฉันก็เลยลองเล่นดู


ในตอนแรกๆ ที่ลองเล่นมันก็สนุกดี เพราะเราได้ลองเล่นอะไรใหม่ๆ มันก็สนุกดีบ้างในการที่เห็นว่ามีคนแอดเข้ามาขอเป็นเพื่อนใน Hi 5 เรา โดยที่เราไม่เคยรู้จักคนๆนั้น และก็มีเพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันแอดเข้ามา ก็ได้เข้าไปเม้นเข้าไปดู Hi 5 ของเขาบ้าง เล่นไปสักพักนึงแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรที่น่าสนุกเลย โดยเฉพาะการที่ต้องเข้าไปเม้นคนนั้น เม้นคนนี้ ไม่เห็นได้สาระประโยชน์อะไร เข้าไปเม้นเพื่อก็ไม่รู้จะเม้นอะไร เพราะว่าก็เจอกันเกือบทุกวัน อยากถามอะไรก็โทรศัพท์เอา ง่ายกว่า สะดวกกว่า ถึงจะเสียเงินค่าโทรก็ตาม จึงเลิกเล่นไป ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twister ก็ไม่เล่น เพราะว่าเรารู้สึกว่าไม่เห็นความจำเป็นเราที่จะต้องเล่น ใครจะว่าเชยก็ตามที


แต่ก็ไม่ได้อยากจะบอกว่ามันไม่ดีไปเสียหมด ส่วนดีๆของมันก็มี อย่างเช่น บางคนอาจใช้ติดต่อกับเพื่อนที่ไม่ค่อยได้เจอและคุยกันทางโทรศัพท์ เพราะว่าเวลาอาจว่างไม่ตรงกัน ใช้ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับกลุ่มเพื่อนที่สนใจกิจสนใจกิจกรรมเดียวกับเรา การติดต่อกับเพื่อนที่อยู่ห่างไกลเช่นต่างประเทศ เป็นต้น และจากที่เห็นๆ เพื่อนบางคนชอบเล่น Hi 5 และก็ใช้สื่อออนไลน์ตัวนี้ในทางที่ผิด ที่ไม่ควร

ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว Hi 5 ก็คงมีทั้งประโยชน์และโทษและมันก็ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ว่า จะใช้สื่อออนไลน์ตัวนี้ไปในทางใด จะใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองหรือก่อให้เกิดโทษแก่ตนเอง...

สื่อออนไลน์กับสื่อทั่วไป เหมือนหรือต่างกัน?

ความแตกต่างอย่างหนึ่งของ สื่อออนไลน์ (Social Media) กับสื่อทั่วไป (Industrial Media) ก็คือ,,,



ต้นทุนราคานั่นเอง คิดกันง่ายๆ ว่าในการโฆษณาครั้งหนึ่ง 1 นาทีกับโทรทัศน์คุณเสียเป็นแสน กับหนังสือพิมพ์หนึ่งหน้าก็เป็นแสน ซึ่งจริงอยู่ว่าปริมาณผู้รับข่าวสารในช่วงนั้นอาจจะเยอะ สามารถสร้างการรับรู้ให้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่ 0 - 1 ล้านคน ซึ่งเหตุการณ์นั้นก็อาจเกิดขึ้นได้กับสื่อทางออนไลน์ด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเราสามารถเข้าไปนับ static ของจำนวนผู้ที่คลิ๊กหน้าเว็บดังๆ อย่างเช่นกูเกิ้ล พันทิป หรือ hi5 ต่อวันก็เป็นจำนวนหลายแสน หลายล้าน ซึ่งจำนวนของคนเหล่านี้ทำให้นักการตลาดหลายๆ ท่านก็ไม่อาจมองข้ามได้


ข้อแตกต่างหลัก ๆ ระหว่าง Social Media (สื่อออนไลน์) กับ Industrial Media (สื่ออุตสาหกรรม) ก็คือ

การเข้าถึง - ถ้าจะพูดถึงการสร้างการรับรู้ให้กับคนหมู่มากแล้ว Social Media เองก็มีเทคโนโลยีที่สามารถเข้าถึงกลุ่มคนจำนวนมากได้ถึงระดับโลก ไม่ใช่แค่เฉพาะในประเทศเท่านั้น
การเลือกหา - เรารู้กันดีกว่าสื่ออุตสาหกรรมที่เข้าถึงกลุ่มคนขนาดใหญ่นั้นมีค่อนข้างจำกัด อย่างโทรทัศน์ในประเทศไทยก็มีเพียงแค่ช่อง 3 5 7 9 ซึ่งมีกฎหมายบังคับให้การโฆษณาต่อรายการหนึ่งๆ มีจำนวนเท่าไหร่ ทำให้ราคาของสื่อประเภทนี้ทะยานสูงอย่างที่เรียกว่า ไม่มีเพดานราคากันเลยทีเดียว แต่สำหรับสื่อออนไลน์ แน่นอนด้วยความอิสระของการจดโดเม็นพื้นที่ ดังนั้นการแข่งขันย่อมมีสูง ราคาก็อาจจะไม่แพงอยู่ที่ว่าเทคนิคการวิ่งเข้ากูเกิ้ลของใครจะเจ๋งกว่ากัน

การหยิบใช้
- โฆษณาปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูง ไม่ว่าภาพ เสียง มุข ที่จะต้องขุดแก่นของความเป็นครีเอทีฟกันออกมาเลยทีเดียว นอกจากนั้นแล้วสารพันเทคนิคก็ทุ่มลงไป เพื่อสร้างภาพสวย ภาพเด่น และสามารถดึงดูดสายตาของผู้ชมให้หันมาดู 1 นาทีของงานโฆษณา บางทีใช้เทคนิคมากกว่าภาพยนตร์หลังข่าวสักเรื่องอีก แต่สำหรับสื่ออนไลน์แล้วใครๆ ก็สามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคแฟลช หรือดรีมเวฟเวอร์ แถมค่าแรงก็ต่ำกว่าไปจ้างคนทำงานสเปเชี่ยล แอฟเฟค อีกหลายเท่า


ความทันต่อเหตุการณ์
- การโฆษณาด้วยสื่ออุตหกรรมเราจะวัดการตอบสนองของผู้บริโภคได้ค่อนข้างยาก ในขณะที่การสื่อออนไลน์กับมีการตอบสนองค่อนข้างจะทันท่วงที อาจจะเรียกได้ว่าในทันทีก็ว่าได้ แต่ปัจจุบันสื่ออุตสากรรมก็พยายามนำเอาเครื่องมือในการสื่อสารสองทางมาปรับใช้ เช่นการส่ง SMS หรือส่งข้อความ การโทรเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นต้น


ความยั่งยืน -
สื่อทางอุตสาหกรรมเป็นสื่อที่ค่อนข้างจะมีหลักฐาน เพราะเมื่อหนังสือถูกพิมพ์ออกมาแล้วข้อความที่สื่อออกไป ก็ยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ แต่ในขณะที่สื่อทางโลกออนไลน์ เกิดการเปลี่ยนแปลงและแก้ไขได้ตลอดเวลา ซึ่งจากตรงนี้ก็เหมือนกับดาบสองคม เพราะแม้ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้ข้อมูลที่เราได้รับมีความทันสมัย เข้ากับสถานการณ์ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลนั้นถูกต้องหรือเปล่า


ดิฉันคิดว่า ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์หรือสื่อทั่วไป ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียของมันเอง เพียงแต่เมื่อเราต้องการใช้ไม่ว่าจะเป็นสื่อออนไลน์หรือสื่อทั่วไป ควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ ความเหมาะสมในการเลือกใช้สื่อ ถ้าเป็นสื่อออนไลน์ก็จะมีข้อดีต่างๆมากมายที่ดีกว่า สื่อทั่วไปหรือสื่ออุตสาหกรรม แต่ถึงจะดีเพียงใดก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน








สื่อออนไลน์ในสังคมปัจจุบัน


สื่อออนไลน์ในสังคมปัจจุบัน


โลกของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แน่นอนว่าไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนเราก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกระแส เทคโนโลยี และภาวะแวดล้อมของเรา ซึ่งปัจจุบันเราคงไม่สามารถจะหลีกเลี่ยงกระแสของธุรกิจออนไลน์ หรือสื่อออนไลน์ได้

กว่า 10 ปีที่อินเทอร์เน็ตค่อยๆ เข้ามามีความสำคัญในการดำรงชีวิตของทุกคน จากความสะดวกสบาย และง่ายต่อการส่งหรือรับข้อมูลข่าวสาร ที่ทุกคนไม่ต้องคอยแต่เป็นเพียงผู้รับสารแต่ฝ่ายเดียวเท่านั้น แต่สามารถเป็นผู้สร้าง หรือพัฒนาข้อมูลให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้ทำให้คำว่า สื่อออนไลน์ เกิดเป็นกระแสที่ใครๆ ก็ต้องพุ่งประเด็นสนใจไปหา ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา เจ้าของกิจการ หรือแม้แต่นักการตลาดเอง


คำจำกัดคำง่าย ๆ ของคำว่า สื่อออนไลน์ ก็คือสื่อของสังคม ที่เปิดโอกาสให้ไม่ว่าใครก็สามารถนำเสนอข่าวสารและข้อมูลเพื่อเผยแพร่ให้บุคคลอื่นๆ ได้รับรู้ ซึ่งมีอยู่ในหลากหลายรูปแบบเช่น เว็บบล็อค เว็บบอร์ด YouTube, Hi5, Facebook, Twister, My Space วิทยุออนไลน์ ทีวีออนไลน์ etc.

โดยอาจจะมีทั้งการนำเอาเรื่องราวของตัวเอง หรือประสบการณ์สิ่งที่ได้พบ การสอนความรู้ต่าง ๆ หรือแม้กระทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ตัวเองมีความรู้หรือมีความถนัด และแน่นอนว่าเมื่อคนได้เจอ "คนคอเดียวกัน" ความสนุกที่ได้รู้จัก แชร์ประสบการณ์ร่วมกัน หรือได้ขยายวงเพื่อนฝูงที่ชอบเหมือนๆ กันออกไป และยังสามารถรับชม รับฟังวิทยุออนไลน์และทีวีออนไลน์ ได้ทางอินเตอร์เนตที่สะดวกสบาย โดยไม่ต้องเปิดทีวีหรือเปิดวิทยุ สิ่งเหล่านี้ก็กลายเป็นจุดหนึ่งที่ทำให้ สื่อออนไลน์ ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามตลอดหลายปีที่ผ่านมา


สื่อออนไลน์ ไม่เพียงแต่จะใช้ในการนำเสนอข่าวสารและข้อมูลเพื่อเผยแพร่ให้บุคคลอื่นๆ ได้รับรู้เท่านั้น ปัจจุบันยังมีความสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ธุรกิจโฆษณา ที่ธุรกิจโฆษณานิยมใช้สื่อออนไลน์ เพราะว่าใช้งบน้อย ไม่สิ้นเปลือง และสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดี ซึ่งตอนนี้ตลาดสื่อออนไลน์กำลังเติบโต สื่อออนไลน์จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นักโฆษณาเลือกใช้




ทำไมต้องสื่อออนไลน์

คิดกันง่ายๆ ว่าเวลาเราจะตัดสินใจซื้อสินค้าสักชิ้นที่เราไม่คุ้นเคย สิ่งแรกที่คุณจะทำคืออะไร “หาข้อมูล” ใช่หรือไม่ ในยุคที่เงินทองหายาก เศรษฐกิจซบเซาแบบนี้ด้วยแล้ว จะซื้อหาอะไรก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ว่าสิ่งที่เราซื้อมันคุ้ม มันทน มันได้ใช้จริงๆ ซึ่งในปัจจุบันที่เราไม่มีเวลาพบปะสังสรรค์กันตามตลาด หรือว่าบ้านเพื่อน เราก็มักจะเข้าเน็ตเพื่อหาข้อมูลของสินค้านั้น ๆ

ด้วยเหตุนี้เองทำให้มีผลการวิจัยล่าสุดออกมาว่า สื่อออนไลน์ มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคกว่า 70% และผู้บริโภคเกือบครึ่ง ( 49%) จะตัดสินใจซื้อจากข้อมูลที่ได้จาก สื่อออนไลน์ นอกจากนั้นแล้วจากรายงานของ The Wave 3 Report ของ Universal MaCann ได้กล่าวอ้างว่า สื่อออนไลน์ เป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อแบรนด์ และภาพลักษณ์ขององค์กรธุรกิจอย่างมาก เพระผู้ใช้สื่อออนไลน์นิยมโพสต์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และแบรนด์ผ่านบล็อก หรือในกลุ่มสังคมออนไลน์ของตน ถ้าคุณเป็นคนหัวเก่าที่คิดว่าสื่อสาธารณะอย่างโทรทัศน์หรือวิทยุสามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้มากกว่าคงต้องเปลี่ยนความคิดใหม่เมื่อเห็นตัวเลขยืนยันจาก ComScore ( www.comscore.com) เกี่ยวกับอันดับของ สื่อออนไลน์ ยอดฮิตของโลก ที่เป็นระดับโลกเพราะสื่อออกไลน์ไม่ได้จำกัดเฉพาะในประเทศเท่านั้น ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนคุณก็เพียงแค่คลิ๊กและสามารถรับข้อมูลข่าวสารได้


1.Blogger – เป็นเว็บยอดฮิตที่มีผู้เข้าใช้กว่า 222 ล้านรายทั่วโลกในปีที่ผ่านมา

2.Facebook – 200 ล้านรายทั่วโลก (กำลังสร้างกระแสในประเทศไทยในช่วงนี้)

3.MySpace – 126 ล้านรายทั่วโลก

4.Wordpress – 114 ล้านราย

5.Window Live Space – 87 ล้านราย
(ปี 2009)


ปัจจัยพื้นฐานทางจิตใจของมนุษย์ก็คือความต้องการการยอมรับในสังคม ทำให้สัมคมออนไลน์จึงกลายเป็นสังคมที่น่าหลงใหลสำหรับใครหลาย ๆ คนที่อาจจะเสาะหาช่องทางในการแสดงความเป็นตัวเองออกมา แต่ใช่ว่าบุคคลแต่ละบุคคลเท่านั้น ที่ต้องการจะแสดงความเป็นตัวเองออกมา ธุรกิจ การเมือง ก็ต้องการการยอมรับจากสังคมด้วยเช่นกัน จึงไม่แปลกเลยที่ปัจจุบันธุรกิจขนาดเล็กหลายๆ แห่งเริ่มสร้าง "ตัวตน" หรือ Identity ของตัวเองในโลกออนไลน์








อ้างอิงจาก Click Magazine