วันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

อิทธิพลของสื่อในสังคมปัจจุบัน



การติดต่อสื่อสารคือปัจจัยหลักในการดำรงชีวิตของสัตว์สังคมชนิดหนึ่งที่เรียกว่า มนุษย์ มนุษย์เริ่มมีการติดต่อกันมาช้านาน ทั้งการเผชิญหน้าโดยตรง ผ่านการพูดคุย รวมถึงการสื่อสารผ่านสื่อซึ่งยังคงมีไม่มากนัก และยังไม่ทันสมัยเหมือนเช่นทุกวันนี้

เพราะทุกวันนี้สื่อถูกสร้างขึ้นเหลือคณา จนบางครั้งตัวมนุษย์เองยังต้องวิ่งตาม ทันบ้าง ไม่ทันบ้าง โดยธรรมชาติของมนุษย์คือการดำรงชีพผ่านสังคม พร้อมกันนั้นยังใช้วัฒนธรรมเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีก เปรียบเสมือนกาวที่คอยประสานภาพแต่ละภาพที่เฟ้นตัวเองหรือโดนเลือกเฟ้นให้ต้องมาอยู่รวมกัน กลายเป็นภาพที่สมบูรณ์ในที่สุด

ด้วยเหตุแห่งการดำรงชีวิตในลักษณะนี้จึงหนีไม่พ้นที่จะต้องมีสื่อเพื่อใช้สื่อสารกันในกลุ่มกับนอกกลุ่ม และนับวันอิทธิพลของเจ้าสื่อเหล่านี้นี่เองที่เริ่มจะคล้าย เข็มทิศที่คอยกำหนดวิถีชีวิตให้กับมนุษย์แบบไม่รู้ตัวก็เป็นได้ในอดีตสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ ล้วนแต่เคยอยู่ในยุคที่รุ่งเรื่องมาแล้วทั้งนั้น จนกระทั่งปัจจุบันสื่อต่างๆ ก็ยังคงรุ่งเรืองอยู่ เพียงแต่เริ่มมีโทรคมนาคม สื่อออนไลน์ เสริมเข้ามากลายเป็นโครงข่ายสลับซับซ้อน และหลายครั้งกลับดูวุ่นวายเข้าไปแทนที่


สื่อสิ่งพิมพ์ เกิดเพราะมนุษย์รู้จักผลิตภาษาขึ้นมาใช้เอง ภาษาที่มีความคิดเป็นกระบวนการหลัก สื่อชนิดนี้จึงยังคงความขลังถึงปัจจุบัน

สื่อวิทยุ คือสื่อที่เปิดรับง่ายที่สุด เพราะแม้กระทั่งผู้ไม่รู้หนังสือก็สามารถทำความเข้าใจได้ สื่อโทรทัศน์คือสื่อที่สามารถเข้าถึงอารมณ์ ความเข้าใจง่ายที่สุด สื่อชนิดนี้จึงได้รับความนิยมอย่างมาก อีกสื่อที่ลืมไม่ได้
สื่อโทรคมนาคม เพราะความรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ คือความปรารถนาของมนุษย์ในการรับสื่ออย่างแท้จริง
สื่อออนไลน์ คือเครื่องมือที่ย่อโลก แต่มันก็เป็นโลกที่เต็มไปด้วยอันตราย หนำซ้ำที่อันตรายที่สุด ณ เวลานี้
สื่อข้อความทางโทรศัพท์ ด้วยความสะดวกสบายเวลารับข้อมูล สื่อชนิดนี้จึงสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้เร็วที่สุดในเวลานี้ดังนั้นสื่อทุกชนิดจึงล้วนเป็นเครื่องมือในการหาประโยชน์ของผู้ที่ต้องการมันสามารถเข้ามามีอิทธิพลต่อชีวิตมนุษย์ในทุกด้าน และแทบทุกคน

จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ณ เวลานี้อิทธิพลของสื่ออาจแทรกซึมเข้ามาในตัวทั้งภายในและภายนอก ภายในคงต้องพูดถึงเรื่องจิตใจ ความคิด ที่ผ่านการรับสื่อ จนมีกระบวนการของจิตใต้สำนึกที่เปลี่ยนไป ชอบเก็บตัว อารมณ์รุนแรง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เพียงเพราะว่าพวกเขาเหล่านั้นบริโภคสื่อที่ไม่ดีมากเกินไปหรือเป็นสื่อที่ดีแต่ผิดวิธีนั่นเองส่วนปัจจัยภายนอก

นั้นเห็นได้ชัดจากองค์รวมของบุคคลที่กล่าวข้างต้นเมื่อได้มาอยู่รวมกัน มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ผลสรุปของการรวมครั้งนี้แน่ชัดว่า จะต้องประกอบไปด้วยความไม่ดีมากกว่าดีอย่างแน่นอนเพราะการเปลี่ยนแปลงที่มนุษย์เองไม่ทันได้ระแวดระวังไว้ก่อนนั่นเอง สื่อในปัจจุบันจึงมีอิทธิพลต่อมนุษย์เป็นอย่างมากถึงมากที่สุด มิหนำซ้ำยังกลายมาเป็นดาบสองคม ที่มีประโยชน์มากมายพร้อมโทษเหลือร้ายอีกด้วย ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมจากอิทธิพลของสื่อนี้เอง เริ่มเด่นชัดขึ้นเมื่อเจ้าสื่อเหล่านี้เริ่มส่งผลร้ายมากกว่าดีในบางครั้ง เพราะมนุษย์มักมองแต่ประโยชน์ และด้านดีของมัน จนมาสะดุดเมื่อได้รับรู้ว่ามันได้ส่งผลร้ายกลับมาแล้ว

ตัวอย่างเช่นการใช้อินเตอร์เน็ตในการสื่อสารถึงกันในยุคปัจจุบัน ระยะแรกเราต้องยอมรับว่าสื่อชนิดนี้มีอิทธิพลต่อสังคมและวัฒนธรรมของเราจริงๆ เพราะอินเตอร์เน็ตได้เข้ามาย่อโลกของเรา ทำให้พวกเราติดต่อสื่อสารถึงกันได้อย่างรวดเร็ว การสืบค้น หาความรู้ทางสื่อชนิดนี้ถูกนำมาใช้อย่างเข้มข้น จวบจนกระทั่งผลร้ายของมันเริ่มปรากฏตัวและดูทีท่าว่าจะแก้ได้ยาก และไม่ระแวดระวังในดาบเล่มนี้อย่างพอสมควรนั่นเอง เด็กๆจะให้ความสนใจกับสื่ออินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมาก และบางครั้งก็มากจนพวกเค้าคิดว่าในโลกนี้ของพวกเขามีเพียงตัวเค้าเองกับอินเตอร์เน็ต ทุกอย่างที่ผ่านประสาทตา ผ่านระบบความคิด จากสื่อชนิดนี้ได้ชักนำให้เกิดความเชื่อจนกระทั่งส่งผลร้ายแก่ตัวพวกเขาเอง ดังเช่นการเชื่อในข่าวสารจากอินเตอร์ ความบันเทิงที่นำไปสู่ความผิดศีลธรรม การติดต่อสัมพันธ์ที่ต้องใช้ความจริงใจแต่ก็มีคนจำนวนมาก สวบบทซาตานระหว่างที่ใช้สื่อชนิดนี้อยู่

และนี่เป็นเพียงส่วนน้อยที่หยิบยกมาเท่านั้น โดยเฉพาะสังคมและวัฒนธรรมที่ต้องควบคู่ไปกับการดำเนินการทางการเมือง เพราะการดำเนินการทางการเมืองคือปัจจัยหนึ่งในการแสดงซึ่งทัศนคติ ความคิด และความเจริญของมนุษย์ การปกครองคนไม่ว่าจะใช้ระบอบใดก็ตาม ผู้ปกครองจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่เรียกว่า สื่อ เป็นเครื่องมือหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปราศรัย การโฆษณาชวนเชื่อ การออกกฎหมาย การออกคำสั่งต่างๆ สื่อล้วนมีความจำเป็นทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นหากอุณหภูมิทางการเมืองเข้าสู่องศาที่สูง ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันหาเสียง การเกิดความไม่สงบในประเทศ หรืออื่นๆ ฝ่ายที่ครอบครองสื่อมากกว่า แน่นอนเปอร์เซ็นแห่งชัยชนะย่อมอยู่ในมือของกลุ่มคนเหล่านี้ด้วยหากสื่อที่ผู้มีอำนาจใช้ สามารถคลอบคลุมทั้งสังคมและวัฒนธรรมได้ทุกภาคส่วนแต่เนื้อแท้ของรายละเอียดกลับมีนัยยะซ่อนเร้น ซ่อนความชั่วร้าย เห็นแก่ตัว ท้ายที่สุด ประเทศหรือสังคมนั้นจะต้องพบพานแต่ความวิบัติเป็นแน่

แต่หากรู้จักเฉลียวใจ และคนส่วนใหญ่ในสังคมเริ่มรู้ตัวว่าหากปล่อยให้ผู้นำของพวกเขาครอบครองสื่อต่อไป พวกเราจะต้องเดือดร้อน ก็ควรจะเปลี่ยนอากัปกิริยาที่คล้ายการตื่นจากฝันได้แล้ว จากนั้นใช้ความเข้มแข็งในสังคมและวัฒนธรรมของตนที่มีอยู่ให้เป็นประโยชน์ เพียงเท่านี้ อิทธิพลสื่อที่ถูกนำมาใช้ครอบงำก็จะเสื่อมสลายเมื่อไร้ซึ่งการสนองตอบอย่างเป็นธรรมดาท้ายสุดมันขึ้นอยู่กับทุกคนแล้วว่าจะปล่อยให้สื่อมีอิทธิพลต่อเราแบบนี้ต่อไปหรือจะเปลี่ยนบทบาทมาเป็นผู้มีอิทธิพลต่อสื่อโดยการเลือกเฟ้นสื่อแท้และทำลายสื่อเทียมออกไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น